มีโรคประจำตัวทำประกันชีวิตรายปีได้ไหมหนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดสำหรับผู้ที่สนใจทำประกันชีวิตคือ ถ้ามีโรคประจำตัวอยู่แล้วจะทำได้ไหมสำหรับ ประกันชีวิตรายปี ซึ่งเน้นการคุ้มครองความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต คำตอบคือ สามารถทำได้แต่บริษัทประกันจะมีการพิจารณาความเสี่ยงที่เข้มงวด หรือที่เรียกว่ากระบวนการ Underwriting
1. กระบวนการพิจารณารับประกัน (Underwriting)
เมื่อผู้มีโรคประจำตัวยื่นคำขอซื้อ ประกันชีวิตรายปี บริษัทจะพิจารณาข้อมูลเหล่านี้:
ประเภทของโรค: เป็นโรคเรื้อรัง (เช่น เบาหวาน ความดัน) หรือเป็นโรคที่หายขาดแล้ว
ความรุนแรงและระยะเวลา: อาการอยู่ในระดับใด มีภาวะแทรกซ้อนหรือไม่ และได้รับการรักษามานานแค่ไหนแล้ว
ประวัติการรักษา: แพทย์ผู้รักษาคือใคร ผลการตรวจล่าสุดเป็นอย่างไร

2. ผลกระทบของโรคประจำตัวต่อเบี้ย ประกันชีวิตรายปี
ผลลัพธ์จากการพิจารณาของบริษัทประกันสามารถแบ่งได้เป็น 3 กรณี:
1. รับประกันแบบปกติ (Standard Rate): หากโรคอยู่ในระยะควบคุมได้ดีมาก และไม่เพิ่มความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ
2. รับประกันแบบมีเบี้ยเพิ่ม (Rated Up): บริษัทรับประกัน แต่มีการเพิ่มเบี้ยประกันสูงกว่าคนปกติ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงกว่า
3. ปฏิเสธการรับประกัน: หากโรคมีความรุนแรงมาก หรืออยู่ในช่วงของการรักษาที่ไม่แน่นอน
3. ทางเลือกสำหรับผู้มีประวัติสุขภาพที่ต้องการ ประกันชีวิตรายปี
หากถูกเพิ่มเบี้ยหรือถูกปฏิเสธการรับประกัน ยังมีทางเลือกที่สามารถพิจารณาได้:
เปลี่ยนแผน: พิจารณา ประกันชีวิตรายปี ที่มีทุนประกันต่ำลง หรือระยะเวลาคุ้มครองสั้นลง
เลือกประกันแบบไม่ต้องตรวจสุขภาพ: บางบริษัทมีแผนประกันที่เน้นการถามตอบสุขภาพเท่านั้น (มักมีทุนประกันจำกัด และเบี้ยประกันสูงกว่า)
การซื้อสัญญาเพิ่มเติม: หากสัญญาหลักถูกเพิ่มเบี้ย แต่สัญญาเพิ่มเติมบางตัว (เช่น อุบัติเหตุ) อาจไม่ได้รับผลกระทบ
4. สิ่งสำคัญที่สุด: การแถลงสุขภาพที่ตรงไปตรงมา
ไม่ว่าจะป่วยเป็นโรคอะไร การแถลงข้อมูลสุขภาพที่เป็นความจริงและครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะการปกปิดข้อมูลจะนำไปสู่การที่กรมธรรม์เป็นโมฆะเมื่อมีการเรียกร้องค่าสินไหมในอนาคต ทำให้ครอบครัวต้องเสียโอกาสในการได้รับความคุ้มครอง
1. กระบวนการพิจารณารับประกัน (Underwriting)
เมื่อผู้มีโรคประจำตัวยื่นคำขอซื้อ ประกันชีวิตรายปี บริษัทจะพิจารณาข้อมูลเหล่านี้:
ประเภทของโรค: เป็นโรคเรื้อรัง (เช่น เบาหวาน ความดัน) หรือเป็นโรคที่หายขาดแล้ว
ความรุนแรงและระยะเวลา: อาการอยู่ในระดับใด มีภาวะแทรกซ้อนหรือไม่ และได้รับการรักษามานานแค่ไหนแล้ว
ประวัติการรักษา: แพทย์ผู้รักษาคือใคร ผลการตรวจล่าสุดเป็นอย่างไร

2. ผลกระทบของโรคประจำตัวต่อเบี้ย ประกันชีวิตรายปี
ผลลัพธ์จากการพิจารณาของบริษัทประกันสามารถแบ่งได้เป็น 3 กรณี:
1. รับประกันแบบปกติ (Standard Rate): หากโรคอยู่ในระยะควบคุมได้ดีมาก และไม่เพิ่มความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ
2. รับประกันแบบมีเบี้ยเพิ่ม (Rated Up): บริษัทรับประกัน แต่มีการเพิ่มเบี้ยประกันสูงกว่าคนปกติ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงกว่า
3. ปฏิเสธการรับประกัน: หากโรคมีความรุนแรงมาก หรืออยู่ในช่วงของการรักษาที่ไม่แน่นอน
3. ทางเลือกสำหรับผู้มีประวัติสุขภาพที่ต้องการ ประกันชีวิตรายปี
หากถูกเพิ่มเบี้ยหรือถูกปฏิเสธการรับประกัน ยังมีทางเลือกที่สามารถพิจารณาได้:
เปลี่ยนแผน: พิจารณา ประกันชีวิตรายปี ที่มีทุนประกันต่ำลง หรือระยะเวลาคุ้มครองสั้นลง
เลือกประกันแบบไม่ต้องตรวจสุขภาพ: บางบริษัทมีแผนประกันที่เน้นการถามตอบสุขภาพเท่านั้น (มักมีทุนประกันจำกัด และเบี้ยประกันสูงกว่า)
การซื้อสัญญาเพิ่มเติม: หากสัญญาหลักถูกเพิ่มเบี้ย แต่สัญญาเพิ่มเติมบางตัว (เช่น อุบัติเหตุ) อาจไม่ได้รับผลกระทบ
4. สิ่งสำคัญที่สุด: การแถลงสุขภาพที่ตรงไปตรงมา
ไม่ว่าจะป่วยเป็นโรคอะไร การแถลงข้อมูลสุขภาพที่เป็นความจริงและครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะการปกปิดข้อมูลจะนำไปสู่การที่กรมธรรม์เป็นโมฆะเมื่อมีการเรียกร้องค่าสินไหมในอนาคต ทำให้ครอบครัวต้องเสียโอกาสในการได้รับความคุ้มครอง
22 พ.ย. 2568 - เวลา 21:34 น.



















